Central Japan Railway Co. และ East Japan Railway Co. (JR Central และ JR East) ประกาศตั้งเป้าหมายที่จะอัพเกรดระบบรถไฟฟ้าหัวกระสุนชินคันเซ็นเป็นระบบอัตโนมัติไร้คนขับ ภายในปี 2028 โดยประเดิมสายแรกคือสาย Tokaido Shinkansen ที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงโตเกียวถึงนครโอซาก้า และภายในปี 2030 สําหรับ Joetsu Shinkansen เส้นทางกรุงโตเกียวกับนครนีงาตะ ตามลําดับ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานขับรถไฟลง
หลังจากที่มีการทดสอบระบบเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม รถไฟชินคันเซ็นที่ทดสอบในสาย Tokaido ซึ่งติดตั้งระบบปฏิบัติการรถไฟอัตโนมัติหรือ ATO ได้ออกเดินทางจากสถานีฮามามัตสึในจังหวัดชิซุโอกะทางตอนกลางของญี่ปุ่น
รถไฟเร่งความเร็วเมื่อคนขับกดปุ่มสีเขียวจากนั้นลดความเร็วและเร่งความเร็วใหม่โดยอัตโนมัติ เพื่อตอบสนองต่อคําแนะนําที่ฉับพลันและหยุดที่สถานีชิซูโอกะในภายหลัง โดยมีความคลาดเคลื่อนเพียง 9 มิลลิเมตรเท่านั้นในตําแหน่งหยุด และข้อผิดพลาดด้านเวลามาถึงยังสถานีหลายทางเพียง 2 วินาที
ผลการทดสอบนี้ได้รับการยกย่องว่า “ประสบความสําเร็จอย่างมาก” โดยเจ้าหน้าที่ของ JR Central
ความท้าทายหลักสําหรับ ATO ที่พัฒนาโดย JR Central คือการยึดตามเวลาออกเดินทางการขนส่ง และเวลามาถึงมาตรฐานที่กําหนดไว้สถานีไม่เกินละ 15 วินาที ในแต่ละสถานีและปรับปรุงความสะดวกสบายของผู้โดยสาร และการประหยัดพลังงานโดยการปรับจํานวนรอบการเร่งความเร็ว / ลดความเร็วและความผันผวนของความเร็ว
โดยทั่วไปแล้วชินคันเซ็นได้ติดตั้งระบบกึ่งอัตโนมัติมีคุณสมบัติขั้นสูงที่ช่วยให้รถไฟวิ่งด้วยความเร็วสูงกว่าปกติจนกว่าจะถึงส่วนชะลอความเร็ว ซึ่งติดตั้งไว้ใช้งานในกรณีที่สภาพอากาศเลวร้ายตลอดเส้นทาง หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ เพื่อชดเชยความล่าช้าที่เกิดจากการชะลอความเร็วที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ JR Central ได้กําหนดเป้าหมายการใช้ระบบอัตโนมัติระดับ 2 คือให้รถไฟขับเคลื่อนได้อัตโนมัติหลังจากที่พลขับกดปุ่ม ซึ่งรถไฟจะทำการเร่งความเร็ว ลดความเร็ว หรือชะลอจอด และออกตัวได้เอง โดยที่ยังมีพนักงานขับรถคอยสังเกตการณ์ตลอดเวลาเผื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน และคอยประสานงานติดต่อกับศูนย์ควบคุมตลอดเวลาระหว่างรถไฟกำลังวิ่ง ซึ่งจะคล้ายๆ กับระบบรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทร และผู้ให้บริการรายอื่นๆ ซึ่งใช้ระบบดังกล่าวมานานแล้ว
สําหรับตอนนี้ JR ยังไงใช้ระบบอัตโนมัตระดับ 2 และยังไม่มีไปถึงระบบอัตโนมัติระดับ 4 ซึ่งรถไฟจะถูกควบคุมโดยอัตโนมัติโดยไม่มีพนักงาน ซึ่งตอนนี้มีเพียงรถไฟสายยูริคาโมเมะ (Yurikamome Line) ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนอัตโนมัติเต็มรูปแบบแห่งแรกของโตเกียวที่เชื่อมต่อชิมบาชิกับโทโยสุผ่านเกาะเทียมโอไดบะ
“เราต้องการพนักงานขับรถไฟสื่อสารกับศูนย์บัญชาการและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน” เจ้าหน้าที่ JR Central กล่าว
ในขณะเดียวกัน JR East มีเป้าหมายที่จะแนะนําระบบอัตโนมัติระดับ 3 บน Joetsu Shinkansen ซึ่งจะช่วยให้พนักงานรถไฟไม่จําเป็นต้องมีคุณสมบัติเป็นคนขับ แต่จะคอยอำนวยความสะดวกรวมทั้งคอยประสานกับทางศูนย์ควบคุมในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายระบบไปยังโฮคุริคุชินคันเซ็นซึ่ งวิ่งบนฝั่งทะเลญี่ปุ่นทางตอนกลางของญี่ปุ่น
เจ้าหน้าที่ JR East กล่าวว่า บริษัทได้ดําเนินการทดสอบตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 สิ่งนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมผู้ขับขี่ระดับ 2 ที่กําหนดให้ผู้ปฏิบัติงานต้องอยู่ในที่นั่งคนขับตลอดเวลาแม้ในระหว่างการขับขี่อัตโนมัติซึ่งทําให้สภาพการทํางานยากขึ้น
Ryo Takagi ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมรถไฟที่มหาวิทยาลัย Kogakuin ในโตเกียวชี้ให้เห็นว่า พนักงานระดับเกรด 2 และ 3 ไม่แตกต่างกันในแง่ของประสิทธิภาพของ ATO
แต่ก็คาดการณ์ว่า JR Central อาจไม่เห็นความสําคัญมากนักในการพยายามลดจํานวนคนขับ เนื่องจากสาย Tokaido Shinkansen มีผู้โดยสารจํานวนมากทําให้บางครั้งพวกเขาจําเป็นต้องตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อพบความผิดปกติหรือตารางเวลาหยุดชะงัก
“ฉันหวังว่ามันจะถูกนํามาใช้เป็นเทคโนโลยีเพื่อลดความเครียดในการทํางาน ไม่ใช่การใช้พนักงานรถไฟเป็นแรงงานราคาถูก”
