สมรภูมิสถานีบริการน้ำมัน (ปั้มน้ำมัน) กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทพลังงานของต่างชาติจากฝั่งโลกตะวันตก ทะยอยขายกิจการในไทยทิ้งแล้วหอบเงินกลับประเทศไปหลายเจ้า ล่าสุดก็เป็นคิวของปั้มตราเสือ ESSO ที่ได้ขายกิจการปั้มน้ำมันและโรงกลั่นทั้งหมดในไทยให้กับกลุ่มบางจาก ด้วยมูลค่า 22,600 ล้านบาท ทำให้บางจากเตรียมขยับขึ้นสู่อันดับ 2 ของประเทศทั้งในแง่ของจำนวนสถานีบริการ และส่วนแบ่งทางการตลาด


เมื่อมีผู้ที่ล่าถอยออกไป ก็ย่อมตั้งมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา เพราะล่าสุด SINOPEC หรือ China Petroleum & Chemical Corporation บริษัทน้ำมันและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้เดินเกมรุกลงทุนในตลาดพลังงานของไทย โดยเข้าถือหุ้นในบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO บริษัทพลังงานในไทย ภายใต้ชื่อ Sinopec – SUSCO Co., Ltd. โดย SUSCO ถือหุ้น 51% และ SINOPEC ถือหุ้น 49% ด้วยมูลค่า 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,175.18 ล้านบาท

การเข้ามาของ SINOPEC จะมีสิทธิ์ในการปรับโครงสร้างธุรกิจของ SUSCO ใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกิจการ โดยกระบวนการคือ ให้บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส (SAD) ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% เพิ่มทุนจดทะเบียนโดยการออกหุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 955,488 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 7.50 บาท หรือคิดเป็น 1% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว
นอกจากนี้จะรับซื้อสินทรัพย์ของสถานีบริการน้ำมันจำนวน 14 สถานี ซึ่งดำเนินการภายใต้ SDA ส่งผลให้ภายหลังการปรับโครงสร้างแล้ว SDA จะมีธุรกิจสถานีบริการน้ำมันลดลงจาก 39 สถานี เหลือเพียง 25 สถานี

และให้ SDA เช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 10 แปลง เป็นระยะเวลา 20 ปี คิดเป็นค่าเช่ารวมประมาณ 278.40 ล้านบาท

การที่ SUSCO จำหน่ายหุ้นของ SDA ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ในสัดส่วน 49% จะส่งผลให้ SDA เปลี่ยนสภาพจากการเป็นบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมทุน เนื่อง SUSCO จะไม่มีอำนาจในการควบคุม SDA ฝ่ายเดียวอีกต่อไป การบริหารต่างๆ จะต้องผ่านมติบอร์ดของ Sinopec – SUSCO Co. ทั้งหมดและได้รับการอนุมติก่อนซึ่งได้ตกลงกันไว้ในสัญญา

ล่าสุดได้มีการเปิดสาขาแรกแล้วที่ถนนรัชดา โดยเป็นการปรับปรุงจากปั้มน้ำมัน SUSCO เดิมบริเวณแยกรัชดาภิเษก กับถนนวัตนธรรม (ตรงข้ามบิ๊กซีเอ็กตร้ารัชดาภิเษก) ซึ่งจุดนี้นับว่าอยู่ใกล้กับสถานเอกอัครราชทูตจีน และย่ายที่ชาวจีนอยู่อาศัยจำนวนมากอย่างห้วยขวาง และคาดว่าจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 5 สาขาในปีนี้

ที่ผ่านมาปั้ม SUSCO ในความรู้สึกของคนไทย มีความเป็นปั้มน้ำมันระดับรองลงมาจากปั้มน้ำมันแบรนด์ดังขนาดใหญ่ ซึ่งก็มีภาพลักณ์เป็นปั้มต่างจังหวัด หรือถ้าหาปั้มระดับท็อปของตลาดไม่ได้เลยถึงจะเข้าใช้บริการ ซึ่งทำให้ SUSCO ไม่ได้เป็นตัวเลือกหลักนักในการเข้าใช้บริการของคนไทย

หากดูส่วนแบ่งการตลาดในการจำหน่ายน้ำมันของ SUSCO อยู่ที่ 4% เท่านั้น มีสถานีบริการน้ำมันจำนวน 252 แห่งทั่วประเทศ และไม่มีโรงกลั่นเป็นของตัวเอง เป็นเพียงการซื้อมาขายไป โดยเมื่อช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 18,002.66 ล้านบาท กำไร 1,098.54 ล้านบาท

สำหรับ SINOPEC เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานและเคมีแบบบูรณาการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีสินค้าและบริการที่ครอบคลุมทั้งการสำรวจและผลิต การขนส่งผ่านท่อน้ำมัน และการจำหน่ายปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการจำหน่าย จัดเก็บ และขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ถ่านหิน เส้นใยสังเคราะห์ ปุ๋ย และเคมีภัณฑ์อื่นๆ

นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเอเยนซีนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ ตลอดจนสินค้าโภคภัณฑ์และเทคโนโลยีอีกมากมาย ทั้งยังมีส่วนร่วมในการวิจัย พัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

ไม่เพียงเท่านั้น SINOPEC มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเครือข่ายร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยมีสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 30,000 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ Easy Joy มากกว่า 27,000 แห่งทั่วประเทศจีนและฮ่องกง มีรายได้เมื่อปี 2022 ราว 3.32 ล้านล้านหยวน หรือ 16.62 ล้านล้านบาท มากกว่ากลุ่ม ปตท. ทุกบริษัทรวมกันที่ทำรายได้เมื่อปี 2566 ที่ 3.36 ล้านล้านบาท ทั้งยังมีการลงทุนในหลายประเทศทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย กลุ่มไซโนเปคมีการลงทุนโครงการรับเหมาก่อสร้างท่อส่งก๊าซ สระบุรี-นครราชสีมา ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระยะทาง 112 กิโลเมตร โครงการรับเหมาก่อสร้างโรงงานผลิต Polypropylene แห่งใหม่และขยายโรงงานปัจจุบันที่จังหวัดระยอง ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท ซิโนเพค เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จํากัด ให้บริการและคําปรึกษาด้านวิศวกรรม สําหรับโรงกลั่นน้ำมัน และลงนามเอ็มโอยูกับบริษัท ไทยแลนด์ บางกอก ชิพยาร์ด และบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อรื้อถอนแท่นขุดเจาะน้ำมันในประเทศไทย ระยะเวลาทั้งสิ้น 20 ปี