ถ้าหากคุณผู้อ่านคิดว่าสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในไทยเมื่อปีที่แล้วแย่แล้ว
คุณผู้อ่านอาจจะต้องเปลี่ยนความคิด เพราะปีนี้มีแนวโน้มแย่กว่า
เนื่องจากในปี 2568 ยอดขายรถยนต์ในไทยอาจหดตัวจากปีที่แล้วถึง 7.5%
(และถึงแม้ตลาดจะหดตัวยังไง แต่ ‘รถจีน’ กลับมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกบทวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นว่าปี 2568 จะเป็นอีก 1 ปีที่ยากลำบากของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย แต่ก่อนอื่นขอพาไปย้อนดูสถิติยอดขายรถยนต์ในไทยกันก่อนตั้งแต่ปี พ.ศ.2565
- ปี 2565 มียอดขายรถยนต์ที่ 849,388 คัน
- ปี 2566 มียอดขายรถยนต์ที่ 775,780 คัน
- ปี 2567 มียอดขายรถยนต์ที่ 572,675 คัน
คาดการณ์ปี 2568 ยอดขายรถยนต์ทั้งปีอาจเหลือเพียง 530,000 คัน
จากสถิติจะพบว่ายอดขายรถยนต์ในไทยหดตัวลงต่อเนื่องกันมา 3 ปีติด
โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยเผชิญความยากลำบาก ยอดขายตกต่อเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น
ปัญหาหนี้เสียที่สูง และกำลังซื้อที่อ่อนแอต่อเนื่องจากปีที่แล้ว
สถานการณ์หนี้เสียที่สูง แม้แต่ ttb analytics สถาบันวิเคราะห์ของธนาคารธนาคารทหารไทยธนชาต ก็ระบุว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล (สถาบันการเงินของประเทศที่คลุกคลีอยู่กับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของคนไทยพร้อมใจกันบอกถึงความน่ากลัวถึงสถานการณ์นี้) โดยยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยเมื่อช่วงไตรมาส 3 ปีที่แล้ว สูงถึง 16.3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 89% ของ GDP ประเทศ
และเมื่อบรรดาสถาบันการเงินรับรู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์หนี้คนไทยหน้าเป็นห่วง การจะปล่อยเงินกู้ก้อนใหญ่ให้คนไทยนำไปซื้อรถคันหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ยาก อย่าว่าแต่กู้เงินไปซื้อรถเลย ไม่ว่าจะกู้ไปทำอะไรก็เป็นเรื่องที่ยากหมด ทำกำลังซื้อของประชาชนอ่อนแอมากขึ้น เป็นวงจรไป
การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทยโดยสหรัฐฯ ก็มีผล
%ในประเด็นนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่ากำแพงภาษีจะกระทบการส่งออก ทำให้ควาามเชื่อมั่นในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่ต่อให้จะมีนโยบายภาครัฐเข้ามาช่วยก็จะยังช่วยได้ไม่เต็มที่
ในขณะที่ตลาดรถยนต์หดตัว แต่รถยนต์สัญชาติจีนกลับกินส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้สะท้อนจากเหตุการณ์ในงาน Motor Show 2025 หนึ่งในมหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย จากงานดังกล่าวปรากฎว่ายอดจองรถที่ผลิตโดยผู้ผลิตสัญชาติจีนขยับขึ้นมามีส่วนแบ่งทางการตลาด “เกินครึ่ง” เป็นครั้งแรก โดยคิดเป็นดังนี้
ยอดจองรถในงาน Motor Show 2025
- รถญี่ปุ่น 38% (ยอดจองลดลง 10% จากปี 2024)
- รถจีน 56% (ยอดจองเพิ่มขึ้น 18% จากปี 2024)
- รถตะวันตก 4% (ยอดจองลดลง 6% จากปี 2024)
และเมื่อผนวกรวมกับกับอัตราการเติบโตที่เร่งตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย จะยิ่งทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนมีโอกาสที่จะกินส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องนี้เองที่ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าสัดส่วนยอดขายรถยนต์ในไทยอาจมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นเจอผู้เล่นที่เข้ามาท้าทายตลาด โดยเป็นผู้ผลิตรถจากจีนที่อาจกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 19% จากเดิมที่เคยมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 11% ในปี 2566
ปีนี้จะเป็นอีกหน่งปีที่ตลาดรถยนต์ไทยเผชิญความยากลำบาก และอาจจะเป็นปีที่ยากเป็นพิเศษสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้ามาทำตลาดในไทยมานานอย่างผู้ผลิตจากญี่ปุ่น
.