หลังจากที่เกิดข่าวลือในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า ‘อากิโอะ โทโยดะ’ อดีตประธาน Toyota Motor และเป็นคนในตระกูลผู้ก่อตั้ง Toyota Industries มีแผนจะเข้าซื้อกิจการบริษัท Toyota Industries Corp. ด้วยราคา 6 ล้านล้านเยน (ราว 1.362 ล้านล้านบาท) ข่าวลือดังกล่าวสร้างแรงกระเพื่อนให้กับคนใน Toyota กลุ่มลูกค้า และบรรดาผู้ถือหุ้น ซึ่งในตอนนั้นโฆษกของ Toyota Motor ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ

จนมาล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา Bloomberg รายงานว่า Toyota Industries Corp. จะนำถูกออกจากตลาดหลักทรัพย์ (แปรสภาพเป็นบริษัทเอกชน) ด้วยมูลค่า 4.7 ล้านล้านเยน (1.06 ล้านล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเป็นกลุ่มของ ‘อากิโอะ โทโยดะ’ ที่เข้าซื้อด้วยราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าตลาดในปัจจุบัน มูฟเม้นนี้ทำให้ข่าวลือที่เกิดขึ้นในเดือนเมษาที่ผ่านมา ‘เป็นจริง’

ข้อเสนอการซื้อหุ้นทั้งหมดของกลุ่มทุนอากิโอะ โทโยดะ อยู่ที่ 16,300 เยนต่อหุ้น โดยมี 3 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น อย่าง Mitsubishi UFJ, Sumitomo Mitsui และ Mizuho ที่จะให้เงินกู้ 2.8 ล้านล้านเยนเพื่อใช้ซื้อกิจการในครั้งนี้ . สื่อใหญ่อย่าง Bloomberg ระบุว่า “ดีลนี้จะกลายเป็นดีลแห่งประวัติศาสตร์” เพราะอาจจะสามารถช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างความเป็นเจ้าของแบบ “พ่อ-ลูก” ของบริษัท Toyota ที่เคยถูกวิจารณ์ในอดีต และการเปลี่ยนแปลงนี้จะยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่อยากให้โครงสร้างหุ้นของแต่ละบริษัทโปร่งใส และให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นให้มากขึ้น

แต่เรื่องนี้อาจตั้งข้อสังเกตุได้ว่าการซื้อหุ้นครั้งนี้อาจทำให้ในอากิโอะ โทโยดะ ที่เป็นคนเก่าคนแก่กลับมามีอิทธิพลอย่างมากใน Toyota ท่ามกลางโลกที่ขับเคลื่อนไปด้วยแนวคิดของคนรุ่นใหม่

“การที่ประธานอากิโอะ โทโยดะ เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ใช่เพื่อควบคุมกิจการ แต่เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนดีลนี้ และต่อยอดให้เกิดผลดีกับประเทศญี่ปุ่น“

ความน่าสงสัยนี้ถูกโต้แย้งทันทีโดย อดีต CFO ของ Toyota Motor เคนดะ คอน ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ต้องรอดูทิศทางและข่าวของ Toyota ต่อจากนี้

ภายหลังการรายงานข่าวของ Bloomberg หุ้นของ Toyota Industries พุ่งขึ้นทันที 40% เรื่องนี่สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนต่างเชื่อมั่นต่อการกลับมาของ อากิโอะ โทโยดะ เพราะว่าในช่วงระยะเวลาที่เขาเคยบริหาร Toyota กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก และมีมูลค่าการตลาดสูงสุดของญี่ปุ่น ที่สำคัญผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในยุคของอากิโอะสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นในอุตสาหกรรม แค่มีข่าวใกล้คัมแบคหุ้นบริษัทยังพุ่งขนาดนี้ ถ้ากลับมาอย่างเป็นทางการจะพุ่งขึ้นอีกขนาดไหน แต่เรื่องนี้มีด้านที่สนับสนุนก็มีด้านที่ไม่สนับสนุนเช่นกัน

Bloomberg รายงานว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2024 มีนักลงทุนต่างชาติ 2 ใน 3 โหวตคัดค้านการกลับมาเป็นกรรมการของอากิโอะ ซ้ำร้ายที่ปรึกษาด้านพร็อกซี (บริษัทที่ปรึกษาที่ช่วยผู้ถือหุ้นตัดสินใจด้านการปฏิบัติการบริหารบริษัท) อย่าง Glass Lewis และ Institutional Shareholder Services (ISS) ก็แนะนำให้โหวต “ไม่รับรอง” เขาด้วยเหตุผลด้านธรรมาภิบาลและกรณีอื้อฉาวเรื่องการทดสอบความปลอดภัยที่อ้างว่า “ลดขั้นตอน” สุดท้ายอากิโอะได้รับคะแนนเสียง 72% ซึ่งต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของกรรมการบริษัท Toyota ซึ่งการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งถัดไปคือวันที่ 10 มิถุนายน นี้ เป็นที่จับตามองว่าในครั้งนี้ความเห็นของผู้ถือหุ้นจะเป็นไปในทิศทางใด

แม้การควบคุมกิจการแบบไม่เป็นทางการโดยครอบครัวในบริษัทมหาชนทำให้นักลงทุนต่างชาติรู้สึกแปลก แต่ในญี่ปุ่น เรื่องนี่เป็นเรื้องปกติ และมีตัวอย่างที่พิสูจน์ว่า ทำได้ดี เช่น Sanrio Co. ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 12 เท่า ตั้งแต่ โทโมคุนิ สึจิ ที่ขึ้นมารับตำแหน่งต่อจากคุณปู่ของเขาในปี 2020

อากิโอะเป็นเป้าจากการที่นักลงทุนไม่พอใจกับแผนของ Toyota ที่เปลี่ยนผ่านรถยนต์ไฟฟ้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจากนักลงทุนกลุ่มสิ่งแวดล้อมอย่าง Greenpeace ที่ดูแคลนการพยายามลดคาร์บอนของ Toyota

ปัจจุบันคู่แข่งหลายรายต้องถอยจากแผนการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปแต่ Toyota กลับประสบความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี Hybrid และอากิโอะอาจจะเป็นผู้บริหารที่ช่วยลดคาร์บอนมากที่สุดในโลก Toyota ประเมินว่ายานยนต์ของบริษัทสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 200 ล้านตันทั่วโลก

อากิโอะอาจจะไม่ใช่ผู้บริหารที่สื่อยกย่อง แต่เขาคือคนที่นักลงทุนควรมอบพวงมาลัยให้ในช่วงเวลานี้ ทิศทาง Toyota ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม

เรื่อง : นภัสวรรณ กู

อ้างอิง : Bloomberg (1) , Bloomberg (2) , Bloomberg (3)

เด็กฝึกงานที่พยายามเติบโตอย่างดี และรอวันที่แมวส้มจะหันมารัก