เมื่อการมีบัตรเครดิต 50 ใบ กลายเป็นงานอดิเรกเพื่อหารายได้เสริม

‘บัตรเครดิต’ คือเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ มีประโยชน์ทั้งส่วนลดหน้าบัตร การสะสมแต้มแลกส่วนลดและโปรโมชันต่าง ๆ ตามแต่ละเจ้า คือถ้าคนไหน ‘ใช้งานเป็น’ บัตรเครดิตจะมีประโยชน์มาก ๆ

ปัจจุบันคนไทยมีบัตรเครดิตเฉลี่ย 2-5 ใบ ผู้เขียนเองก็มี 2 ใบ (ใบหนึ่งสำหรับค่าสมาชิกรายเดือนที่เป็นค่า Fix Cost ต่าง ๆ และอีกใบไว้ใช้สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน) แต่รู้หรือไม่ มีกลุ่มคนในสหรัฐอเมริกาที่เน้นเปิดบัตรเครดิตใหม่อย่างสม่ำเสมอ และแต่ละคนในสมาชิกกลุ่มอาจมีบัตรเครดิตมากถึง 50 ใบ!!!

เรื่องนี้เป็นอย่างไร ? บทความนี้จะมาเล่าให้ฟัง

Churning community ชุมชนสุดปั่น พากันสุดป่วน

The New York Times รายงานเรื่องนี้ว่า ที่สหรัฐอเมริกาจะมีกลุ่มที่เรียกว่า “Churning community” เป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเปิดบัตรเครดิตใหม่เป็นประจำ เปิดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เพื่อล่ารางวัล ล่าโปรโมชันที่แต่ละสถาบันบัตรเครดิตมอบให้

แนวคิดของคนกลุ่มนี้เรียบง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยความสุดโต่งก็คือ ในเมื่อทุกสถาบันบัตรเครดิตพร้อมที่จะมอบโปรโมชันเปิดบัตรใหม่ให้กับลูกค้า แล้วทำไมเราจะไม่สมัครหละ ? ก็สมัครไปเรื่อย ๆ เพื่อเอาโปรโมชันเหล่านั้นให้หมดมันซะเลย

“ตอนที่ลุ้นที่สุดก็คือตอนที่กดปุ่มยืนยันการสมัครบัตรนี่แหละ พอแจ้งเตือนเด้งว่าสมัครผ่าน อะดรีนาลีนในตัวผมก็พลุ่งพล่านทันที”

นอกจากประสบการณ์ที่คุณปาล์ม (Mr.Palm) หนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม Churning community แบ่งปันข้างต้น เขายังเล่าให้ฟังว่าบัตรแต่ละใบจะมีรางวัลโปรโมชันสุดคุ้มเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ (ไม่ว่าจะรูปแบบเป็นเงิน หรือโปรโมชัน ฯลฯ) ดังนั้นเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์จากบัตรพวกนี้อย่างสม่ำเสมอ เขาและภรรยาจึงสมัครบัตรเครดิตเรื่อยมาตลอด 7 ปี

โดยปัจจุบันคุณปาล์มและภรรยาประเมินว่าพวกเขาน่าจะมีบัตรเครดิตแล้วมากกว่าคนละ 50 ใบ และร่วมกันสร้างเงินเข้ากระเป๋าแล้วมากกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,309,880 บาท)

ถ้าเราคิดว่าคุณปาล์มสุดโต่งแล้ว ‘ต้องบอกว่ายัง’ เพราะเขาเล่าต่อว่าเขาเห็นคนใน community ที่เปิดบัตรเครดิตใหม่มากกว่า 20 ใบต่อปีมาแล้ว เป็นสุดยอดนักล่าโปรโมชันและเครดิตเงินคืนที่แท้จริง

นอกเหนือจากคุณปาล์ม The New York Times ยังไปสัมภาษณ์สมาชิกคนอื่น ๆ ของ Churning community คุณลินด์ซีย์ (Lindsay Ash) และคุณไอแซก (Isaac Khor) ซึ่งทั้ง 2 คนก็ต่างเอ่ยปากเป็นเสียงเดียวกันว่าเงินโบนัสที่ได้จากการสมัครบัตรเครดิตใหม่ช่วยให้เขาได้ใช้ชีวิตตามใจอยากมากขึ้น เช่น คุณลินด์ซีย์เอาเงินไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณไอแซกเอาเงินมาใช้ประทังชีวิตขณะเรียนปริญญาเอก

ถ้าก้าวแรกพลาดไป ก้าวต่อไปอาจมรณะ

เมื่อหมุนเงินผิดชีวิตเปลี่ยน

การจะเข้าไปอยู่ในกลุ่ม Churning community และมีงานอดิเรกเป็นการเปิดบัตรเครดิตใหม่ทุก ๆ วัน “ไม่ใช่” เรื่องที่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะเหตุผลสำคัญก็คือ

การที่จะปลดล็อค ‘เงินโบนัส’ หรือ ‘เงินสิทธิพิเศษ’ จำเป็นต้องมียอดการใช้งานบัตรที่ถึงเกณฑ์ตามที่แต่ละผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสถาบันกำหนด นั่นแปลว่าคุณต้องมีเงินพร้อมจ่ายค่าบัตรเครดิตอย่างมหาศาลเสมอ และถ้าเกิดไม่มีเงินจ่าย จ่ายไม่ตรง จ่ายไม่ครบตามกำหนดขึ้นมาคุณก็จะเสียคะแนนเครดิตของตัวคุณเองไป ทำให้โอกาสที่จะไปเปิดบัตรใหม่ยากขึ้น นำมาซึ่งแนวโน้มการไม่ได้รับ ‘เงินโบนัส’ หรือ ‘เงินสิทธิพิเศษ’

ผู้เขียนมองว่าปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่การจะอดได้เงินโบนัสอะไรหรอก แต่อยู่ตรงที่การไม่มีเงินจ่าย/จ่ายขั้นต่ำ สะสมไปเรื่อย ๆ ในบัตรหลาย ๆ ใบนี่แหละ คิดดูว่าถ้ามีบัตรที่ต้องจ่ายขั้นต่ำแค่ 1 ใบก็ต้องแบกดอกเบี้ยเยอะแค่ไหนแล้ว

เราอาจเห็นเคสคนไทยที่เป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะ ๆ จ่ายไม่ไหวและไปปรึกษาโค้ชหนุ่ม Money Coach อยู่บ่อย ๆ เช่น “เป็นหนี้ 200,000 จากบัตรเครดิต 5 ใบ ด้วยเงินเดือน 18,000 ต่อเดือน จะแก้อย่างไรดี” เคสแบบนี้เชื่อได้ว่าที่สหรัฐอเมริกาก็ต้องมีแน่ ๆ โดยเฉพาะมือใหม่ที่พึ่งเข้ากลุ่ม Churning community

คือถ้าก้าวพลาดใช้เงินเกินกำลังแม้แต่นิดเดียว อาจถึงขั้นชีวิตพังได้เลย

สำหรับสถานการณ์บัตรเครดิตในประเทศไทย

นายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่มงาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า จากการทำโปรแกรมตรวจสุขภาพทางการเงินออนไลน์ของมนุษย์เงินเดือนในประเทศไทยกว่า 96,000 คน ระหว่างเดือนสิงหาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า 8 ใน 10 หรือกว่า 82% ของมนุษย์เงินเดือนมีภาระหนี้

โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้ส่วนบุคคลและบัตรเครดิต คิดเป็นสัดส่วน 53% และที่สำคัญคือ 49% ของมนุษย์เงินเดือนมีหนี้สะสมจากพฤติกรรมจ่ายขั้นต่ำ หรือผิดนัดชำระ และยิ่งไปกว่านั้น 65% ของคนที่จ่ายไหว ยังเป็นการชำระเงินขั้นต่ำ ทำให้เกิดความเสี่ยงสะสมจากดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและอยู่ในวงจรหนี้ไม่สิ้นสุด

สถานการณ์หนี้คนไทยอธิบายให้เห็นภาพคือ ถ้าเดินผ่านคน 100 คน 80 คนที่เดินผ่านจะมีหนี้แน่ ๆ

และใน 80 คนที่เป็นหนี้ 40 คนคือเป็นหนี้บัตรเครดิต

และใน 40 คนนี้จะมีราว ๆ 20 คนที่จ่ายขั้นต่ำหรือผิดชำระหนี้บัตรเครดิต

เรียกได้ว่าน่ากังวลมาก ๆ สำหรับประเทศที่มีหนี้ครัวเรือนสูงอย่างประเทศไทย ดังนั้นเทคนิคการใช้บัตรเครดิตแบบสมัครใหม่เพื่อรับโบนัส ที่ผู้เขียนหยิบมาเล่าให้ฟัง คนไทยอย่างเรา ๆ ก็ไม่ต้องไปทำตามจะเป็นการดีเสียกว่า แต่ก็อยากให้รู้ว่าสำหรับคนที่ใช้งานเป็น รู้วิธีการใช้เป็นอย่างดีก็สามารถหาประโยชน์จากบัตรเครดิตที่ใครหลายคนกลัวได้ แม้จะสุดโต่งไปหน่อยก็ตาม

ที่มา
The New York Times
วิจัยกรุงศรี
Marketeer

เด็กหนุ่มจากราชบุรี ที่ยังคงลองผิดลองถูกเสมอมา