ภัยพิบัติไฟป่าทั่วโลกกำลังรุนแรงขึ้น ถี่ขึ้น สร้างความเสียหายมากยิ่งขึ้น

จากการเก็บข้อมูลและการศึกษาเกี่ยวกับไฟป่าได้เปิดเผยว่า ‘ไฟป่าที่สร้างความเสียหายมากที่สุดของโลก’ เกือบ 1 ใน 2 ล้วนเกิดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และไฟป่าบนโลกเราตอนนี้กำลังเกิดถี่ขึ้นและสร้างความเสียหายมากขึ้น !

จริง ๆ ไฟป่าคือกระบวนการทางธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ไฟป่าขนาดเล็กที่มีความรุนแรงต่ำ ๆ จะช่วยฟื้นฟูป่าไม้ ช่วยกำจัดสารอินทรีย์ที่ตายแล้ว เมื่อพืชที่ตายหรือเน่าเปื่อยเริ่มสะสมตัวบนพื้นดินอาจขัดขวางไม่ให้สิ่งมีชีวิตในดินเข้าถึงสารอาหาร หรือปิดกั้นไม่ให้สัตว์บนดินเข้าถึงดินบริเวณนั้น ๆ แต่เดี๋ยวนี้จากสภาพภูมิอากาศ การขยายตัวของเมืองไปยังพื้นที่ป่าไม้ทำให้ไฟป่ารุนแรงขึ้น ห่างไกลจากคำว่ารุนแรงต่ำ

ฤดูร้อนปี 2568 EURO NEWS รายงายงานว่า ความเสียหายจากไฟป่าทั่วทั้งทวีปยุโรปมีปริมาณสูงเป็นประวัติการณ์ ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปล้วนได้รับผลกระทบไปถ้วนหน้า สเปนและโปรตุเกสเป็นสองประเทศที่เกิดความเสียหายรุนแรงที่สุด และรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

มีการศึกษาหนึ่งที่ตีพิพม์ในวารสารวิชาการ Science ได้ทำการศึกษาเหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในรอบ 44 ปีและพบว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ไฟป่ามีแนวโน้มที่จะเกิดง่ายมากยิ่งขึ้น ถี่มากขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น

การศึกษาครั้งนี้นักวิจัยวิเคราะห์ฐานข้อมูลภัยพิบัติทั่วโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2566 โดยพยายามระบุภัยพิบัติไฟป่าครั้งใหญ่ (ภัยพิบัติที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 รายขึ้นไป หรือสร้างความเสียหายมากที่สุดเมื่อเทียบกับ GDP ของประเทศ) นักวิจัยได้สังเกตการกระจายตัว แนวโน้ม และสภาวะต่างๆ โดย ผลการวิเคราะห์เผยให้เห็นว่าไฟป่าทั่วโลกเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น (จากการสร้างความเสียหาย) เมื่อเวลาผ่านไป และเกือบครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในช่วงเวลาที่พวกเขาสำรวจ เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

และแน่นอนยุโรปคือหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าเป็นอันดับตั้น ๆ ของโลก เพราะภัยพิบัติจากไฟป่ามัก ‘กระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่’ การศึกษาพบว่าป่าเมดิเตอร์เรเนียน (กลุ่มของป่าไม้และพุ่มไม้ที่มีลักษณะเฉพาะคือ ฤดูร้อนแห้งแล้งและฤดูหนาวมีฝนตก) เป็นหนึ่งในไบโอม (พื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมคล้ายคลึงกัน) ที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้มากที่สุด โดยไบโอมเมดิเตอร์เรเนียนประสบภัยพิบัติมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 6.7 เท่าเมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากร

และเมื่อมีเหตุการณ์ไฟป่าค่อย ๆ รุนแรงขึ้น ผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายก็ต้องมีมาตรการหรือลงมือทำอะไรซักอย่าง ทว่าแนวปฏิบัติต่าง ๆ ก็ถูก EURO NEWS สื่อกระบอกเสียงของยุโรปนี่แหละที่รายงานว่ามีนักเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมออกมาพร่ำบอกว่ามาตรการของรัฐบาลยังไม่เพียงพอที่จะรับมือภัยพิบัติเหล่านี้

เรียกว่าช่วยกันสับผู้มีอำนาจอย่างสม่ำเสมอ
คือต้องบอกว่าทั้งภาคประชาสังคมและสื่อที่ยุโรปค่อนข้างให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมาก ๆ

กลับมาที่ตัวรายงาน ผลการศึกษายังพยายามเน้นย้ำถึงมาตรการรับมือที่ต้องรัดกุมมากขึ้นและการจัดการเชื้อเพลิงไฟป่าผ่านการเผาอย่างเจาะจง (ตั้งใจเผาในพื้นที่จำกัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผาตามธรรมขาติที่รุนแรง เรื่องนี้ 9arm อธิบายไว้อย่างละเอียดในช่อง) นอกจากนี้ยังต้องริเริ่มโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

คือในประเทศไทยเราอาจไม่เจอปัญหาไฟป่าระดับประเทศให้เห็นบ่อยครั้ง และเวลาเกิดไฟป่าก็จะถูกนำเสนออยู่เพียงไม่กี่ช่อง ไม่กี่วันและก้เงียบลงไป เลยอาจทำให้ประชาชนยังไม่เข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากไฟป่ามากนัก ทว่าต่อจากนี้ถ้าเราเห็นไฟป่าบ่อยครั้งมากขึ้นในประเทศไทยก็อยากให้รู้ไว้ว่าเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นอีก บ่อยครั้งขึ้น ไม่ใช่เฉพาะที่ไทยแต่ทั้งโลก

ที่มา
EURO NEWS
National Geographic