อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังไปไหว ?

ก่อนหน้านี้เรานำเสนอข้อมูลประเด็นที่ว่าตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งหนึ่งในสาเหตุเบื้องหลังคือการที่คนไทยกำลังอาศัยอยู่ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปราะบาง อาจโดนเลย์ออฟได้ทุกเมื่อ คนเลยไม่อยากเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องมีภาระผ่อนยาว ๆ ซึ่งการกู้ซื้อบ้านก็ทำให้เกิดภาระทางการเงินในลักษณะนั้น

แต่เอ๊ะ สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจอื่น ๆ สินค้าอื่น ๆ ที่มีลักษณะการซื้อที่ทำให้คนเป็นหนี้ระยาวไหม เช่น รถยนต์ ข้อสงสัยนี้เกิดขึ้นในเวลาที่ประจวบเหมาะกับการที่ SCB EIC ได้ออกมาวิเคราะห์เรื่องนี้พอดี Reporter Journey เลยขอไปสำรวจตลาดรถยนต์กันเสียหน่อย เพื่อคลายข้อสังสัย

ใกล้สิ้นปีแล้ว ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอย่างไรบ้าง

ปี 2568 SCB EIC คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนตในประเทศจะชะลอตัวลงจากปี 2567 ราว 0.3% ทว่าการหดตัวของยอดขายนี้ก็ยังมีแง่มุมเชิงบวกที่ว่าเป็นการหดตัวชะลอลง (หมายถึงการหดตัว แต่หดตัวน้อยลง) นอกจากนี้ SCB EIC ยังคาดากรณ์ว่าพอเข้าสู่ปี 2569 ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะกลับมาฟื้นตัวได้ที่ราว ๆ 1.4%

เนื่องจาก SCB EIC ประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะกลับมาฟื้นตัวได้ สาเหตุจากตลาดรถยนต์ EV ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในไทย (เห็นได้จากทั้งปริมาณการผลิตและยอดขาย)

โดยตลาดรถยนต์ไทยจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป SCB EIC คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศอาจโตเฉลี่ยได้ถึง 2.6% ต่อปีตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไปจนถึงปี 2029

สำหรับการผลิตรถยนต์ในประเทศ เครื่องยนต์ Hybrid (มกรา-กันยา) เติบโตขึ้น 19% และ BEV (มกรา-กันยา) เติบโตขึ้น 462% ตัวเลขการเติบโตขนาดนี้เกิดจากการเริ่มเดินสายผลิตรถยนต์ BEV ในประเทศไทยจากค่ายรถยนต์จากจีน ทว่าในภาพรวมปริมาณการผลิตรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังมานี้ยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากภาวะตลาดที่ยังไม่ฟื้นตัว

สถานการณ์ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย

ตั้งแต่มกราคม – กันยายน ยอดขายรถยนต์ในประเทศคิดเป็นราว ๆ 450,000 คัน โดยแบ่งเป็น

  • รถกระบะ 1.59 แสนคัน
  • รถเก๋ง 1.74 แสนคัน
  • รถ SUV 1.15 หมื่นคัน

ส่วนแบ่งตลาดรถไทย เดือน มกราคม – กันยายน 2568 เป็นดังนี้

  • รถกระบะ 24%
  • รถเก๋ง 39%
  • รถ SUV 26%

และในภาพรวมด้านยอดขาย SCB EIC วิเคราะห์ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศยังไม่เห็นสัญญาณการฟื่นตัวที่ชัดเจน มีเพียงรถ SUV ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สวนทางตลาดรถกระบะที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์จาก SCB EIC ยังคงยกประเด็นในเรื่องของแรงกดดันทางเศรษฐกิจในปีหน้ามาเป็นหนึ่งในความท้าทายต่อตลาดรถยนต์ไทย (จุดนี้คงต้องบอกว่าท้าทายทุกอุตสาหกรรม ทุกตลาดเลยก็ว่าได้) โดยแรงกดดันหลัก ๆ ก็เช่น ระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำกำลังซื้อของผู้บริโภคเปราะบาง

หมายความว่าการที่คนไทยไม่อยากมีหนี้เป็นภาระผูกผันยาว ๆ ก็ส่งผลกระทบถึงตลาดรถยนต์เหมือนกัน กอปรกับเทรนด์ของการที่ผู้บริโภคหันมานิยมเรียกบริการรถ (Ride-sharing) ก็ยิ่งทำให้ความจำเป็นในการมีรถยนต์ในการใช้ในชีวิตประจำวันถูกลดทอนลงมา

แต่อย่างน้อยถ้าอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ เราก็ยังพอจะเห็นสัญญาณดีได้บ้าง ว่าในอนาคตตลาดรถยนต์ยังพอพลิกฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไปได้

อ้างอิง
SCB EIC