ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตของ Taylor Swift ศิลปินหญิงอันดับหนึ่งของยุคที่กำลังจะเสร็จสิ้นการประเดิมทัวร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ประเทศแรกคือ สหรัฐฯ ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ซึ่งเธอได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อได้มอบเงินโบนัสที่ได้จากการจัดคอนเสิร์ตตลอดเกือบ 5 เดือน เพื่อแทนคำขอบคุณให้กับทีมงานและสต๊าฟทุกคน รวมมูลค่าถึง 55 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,900 ล้านบาท

สื่อต่างประเทศรายงานว่า เธอมอบเงินโบนัสขวัญถุงให้กับทีมงานทุกคนทั้งทีมแดนเซอร์ ช่างไฟ ช่างเทคนิค รปภ. แม่บ้าน คอสตูม รวมทั้งคนขับรถบรรทุก รวม 50 ชีวิต เฉลี่ยต่อคนที่ 100,000 ดอลลาร์ หรือราว 3.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแจกเช็คโบนัสก่อนการแสดงในวันเสาร์ของเธอในซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย

สำหรับ The Eras Tour นับเป็นการแสดงคอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของโลกในปีนี้ ด้วยยอดจำหน่ายบัตรที่หมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็วทุกรอบ มีแฟนๆ เข้าชมมากกว่า 70,000 คนในแต่ละคืน ซึ่งเทเลอร์ประกาศทัวร์ครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังจากที่เธอเข้ารับตําแหน่ง Billboard Hot 100 Top 10 กับ Midnights ทัวร์เริ่มขึ้นในวันที่ 17 มีนาคมในเมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา และขยายไปจนถึงวันที่ 9 สิงหาคม ซึ่งจะปิดท้ายการทัวร์ในสหรัฐอเมริกาของเธอที่ SoFi Stadium ในลอสแองเจลิส

ทั้งนี้คาดว่ารายได้จากการทัวร์คอนเสิร์ตในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวอาจสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 34,000 ล้านบาท ซึ่ง Bloomberg News รายงานว่าเธอสามารถทำเงินเฉลี่ยสูงถึง 13 ล้านดอลลาร์ หรือราว 446 ล้านบาท ทุกรอบ และหลังจากนั้นจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ เริ่มต้นที่แถบละตินอเมริกาในช่วงปลายปีนี้ ตามด้วยเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย ในปี 2024