ญี่ปุ่นคือประเทศที่ทำมังงะ การ์ตูน แอนิเมชัน และเกมเกี่ยวกับ ‘กีฬา’ มากที่สุด และพยายามสร้างแรงบรรดาลใจให้กับเด็ก ๆ ในประเทศเสมอ จนอาจเรียกว่าเป็นการ์ตูนสร้างชาติ สื่อสร้างชาติเลยก็ว่าได้ มีนักกีฬาสัญชาติญี่ปุ่นโลดแล่นอยู่ในสนามแข่งกีฬารอบโลกหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น วาตารุ เอ็นโด (นักบอลทีมลิเวอร์พูล) คาโอรุ มิโตมะ (นักบอลทีมไบรตัน) ยูกิ สึโนดะ (นักแข่งรถ Formula1) ฯลฯ

สื่อในจอเข้าถึงเด็กและผู้ใหญ่ทุกคนในญีุ่น สร้างแรงบรรดาลใจให้กับชาวญี่ปุ่นมาแล้วนักต่อนัก แต่เหนือจากภาพที่เห็นในจอคือคือสนามจริง การได้ไปดูกีฬาต่าง ๆ แบบเกาะติดขอบสนามจะยิ่งสร้างแรงบรรดาลใจให้เด็กและเยาวชนได้มากกว่า เพราะกำลังสัมผัสประการณ์ตรงหน้าครบทั้ง 5 สัมผัส เสียงเชียร์ในสนาม บรรยากาศเกม สีหน้าแววตานักกีฬาที่เห็นอยู่ตรงหน้า

แต่ดูเหมือนว่าการเข้าไปดูกีฬาในสนามและการดูกีฬาบนทีวีของเด็กที่ญี่ปุ่น กำลังกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ

ความฝันและแรงบรรดาลใจที่เด็กควรได้ปลูกฝังกำลังถูกขัดขวางโดยค่าตั๋ว ค่าสมัครสมาชิก และค่าครองชีพในญี่ปุ่นที่พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กเผชิญ

จากการรายงานของสถาบันวิจัย ‘Mitsubishi UFJ Research and Consulting’ เปิดเผยว่าญี่ปุ่นยุคสมัยปัจจุบัน ราคาตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันกีฬาในประเทศญี่ปุ่นเฉลี่ยแล้ว เพิ่มขึ้นมาถึง 44% เมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่แล้ว โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4,527 เยน คิดเป็นเงินไทย 1,031 บาท ต่อเกมการแข่งขัน

ถ้าลงลึกไปดูที่ตัวอย่างกีฬาเบสบอล หนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดของญี่ปุ่น

เกมเปิดฤดูกาลเบสบอลเมเจอร์ลีกปี 2025 ระหว่างทีมลอสแองเจลิส ดอดเจอร์ส กับทีมชิคาโก คับส์ ที่โตเกียวโดม ราคาตั๋วมีตั้งแต่ 5,500 เยนสำหรับที่นั่งนอกสนาม (ราว 1,252 บาท) ไปจนถึง 150,000 เยน (ราว 34,161 บาท) สำหรับที่นั่งแบบเกาติดขอบสนาม หรือถ้ารู้สึกว่าสู้ราคาตั๋วในสนามไม่ไหว และหันไปดูบนสตรีมมิงแพลตฟอร์มอย่าง DAZN แพลตฟอร์มสตรีมมิงกีฬา ก็มีราคาแผนมาตรฐานที่ 4,200 เยนต่อเดือนในปี 2024 (ราว 956 บาท) ซึ่งเป็นค่าสมาชิกรายเดือนที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากราคาเมื่อสามปีก่อน

เรื่องค่าตั๋วที่แพง เรื่องค่าสมัครสมาชิกที่สูงขึ้นล้วนมีผลไม่มากก็น้อยให้วัยรุ่นในญี่ปุ่นรับชมกีฬาน้อยลง จากการสำรวจของมูลนิธิด้านกีฬา ‘Sasakawa Sports Foundation’ เปิดเผยว่า ในปี 2023 มีเพียงเยาวชนอายุระหว่าง 12-19 ปี ราว ๆ 30.5% เท่านั้นที่รับชมเกมหรือดูกีฬาถ่ายทอดสดในปี ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงมาถึง 10% จากปี 2011 ในขณะที่กลุ่มผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป รับชมเกมหรือดูกีฬาถ่ายทอดสดเพียง 26.2% เท่านั้นในปี 2024 ซึ่งลดลง 5.5% จากปี 2012 คือแนวโน้มตอนนี้เยาวชนและวัยรุ่นที่ญี่ปุ่นกำลังดูกีฬาที่บ้านเกิดตัวเองน้อยลงมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ญี่ปุ่นในยุคนี้มีนักกีฬาแนวหน้าของโลกมากมาย ฟุตบลอทีมชาติก็ทำได้ดีมาก ๆ

ไม่เพียงแต่กลุ่มเยาวชนและวัยรุ่นจะดูถ่ายทอดสด ดูกีฬาน้อยลงแล้ว เด็กน้อยในญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะเข้าถึงการดูกีฬาและการเล่นกีฬาเหมือนกัน เรื่องนี้สื่อญี่ปุ่น NIKKEI Asia รายงานว่าจากการไปสัมภาษณ์คุณแม่ท่านหนึ่งในจังหวัดเฮียวงะคุณแม่ออกมาบ่นถึงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมากเมื่อจะพาลูกไปเล่นฟุตบอล เพราะสโมสรที่พาลูกไปมีการขึ้นค่าธรรมเนียมรายเดือนมากกว่า 1,000 เยน ทำให้รวม ๆ แล้วคุณแม่ต้องจ่ายเงินต่อปีเพื่อให้ลูกเข้าถึงกีฬาสูงถึง 200,000 เยนต่อปี (ราว 45,534 บาท)

การขึ้นค่าธรรมเนียมของสโมรสรฟุตบอลเป็นเพียงหนึ่งในกิจกรรมที่ขึ้นค่าธรรมเนียมเท่านั้น เพราะจากการสำรวจโดย ‘กระทรวงการปกครองและการสื่อสารภายในประเทศญี่ปุ่น’ พบว่าแม้แต่ค่าธรรมเนียมรายเดือนสำหรับเรียนว่ายน้ำใน 23 เขตของโตเกียวก็ปรับตัวสูงขึ้น ! โดยอยู่ที่ 9,079 เยน (ราว 2,067 บาท) (เฉลี่ยปี 2024) เพิ่มขึ้นเกือบ 2,000 เยนจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (เพิ่มขึ้นมาราว 455 บาท) แม้แต่อุปกรณ์สำหรับกีฬาเบสบอล, เทนนิส และกีฬายอดนิยมอื่น ๆ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เมื่อผนวกรวมกับช่องว่างรายได้ต่อครัวเรือนที่เพิ่มมากขึ้น จะยิ่งทำให้โอกาสของเด็ก ๆ ในการเข้าถึงกีฬายากมากขึ้น เต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนผ่านข้อมูลขององค์กร Chance for Children องค์กรที่ทำงานต่าง ๆ เพื่อเด็กด้อยโอกาส

องค์กร Chance for Children รายงานว่าในปี 2022 ผู้ปกครองกว่า 63.5% ที่มีรายได้ครัวเรือนต่อปีต่ำกว่า 3 ล้านเยน (ราว 683,377บาท/ปี) ระบุว่าบุตรหลานของตนมีส่วนร่วมในกีฬาน้อยกว่า 1ครั้ง/สัปดาห์ ซึ่งอัตราดังกล่าวสูงกว่าเด็กจากครอบครัวที่มีรายได้ต่อปี 6 ล้านเยน ขึ้นไปถึง 20% กล่าวคือ เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนกว่าจะเข้าถึงการเล่นกีฬาน้อยกว่าเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะ

หากสถานการณ์ยังดำเนินแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อย ๆ ภาพของบรรดาเด็ก ๆ รวมตัวกันเล่นกีฬากลางแจ้งที่เรามักพบเห็นได้ในการ์ตูน มังงะ อนิเมะ อาจไม่มีอีกแล้วที่ญี่ปุ่นในเวลานี้ และแนวโน้มก็ดูเป็นเช่นนั้น การ์ตูนสร้างชาติจะไปมีประโยชน์อะไรหากในชีวิตจริง เด็กทุกคนในญี่ปุ่นไม่มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกันในการได้สัมผัสพื้นสนามจริง ๆ สัมผัสเกมกีฬาจริง ๆ

ความเหลื่อมล้ำของเด็กและเยาวชนด้านกีฬา กำลังก่อตัวขึ้นอย่าเงียบ ๆ ที่สังคมญี่ปุ่น

ที่มา NIKKEI Asia