“ปารีส 2024 โอลิมปิกท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก พลังงาน และสภาพภูมิอากาศ เน้นความประหยัด คุ้มค่า ขนาดนักกีฬายังต้องพกแอร์มาเอง! แม้เป็นฤดูร้อนอบอ้าว และ 90% ของสนามแข่งขันใช้ของเดิมที่มีอยู่แล้วนำมาปรับปรุง ไม่ลงทุนสร้างใหม่หลายหมื่นล้านที่สุดท้ายจะถูกทิ้งร้างภายหลัง”


การจัดงาน ‘โอลิมปิก 2024’ ครั้งนี้ เมือง ‘ปารีส’ ตั้งใจจะให้เป็นโอลิมปิกที่ ‘ยั่งยืน’ (sustainability) มากที่สุดในประวัติศาสตร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ทุก ๆ ครั้งที่มีการจัดมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างฟุตบอลโลก หรือโอลิมปิก จะต้องมีการลงทุนเชิงโครงสร้าง เช่น สร้างถนน สร้างหมู่บ้านนักกีฬา ไปจนถึงสร้างสนามกีฬา ฯลฯ ในบางประเทศที่ไม่ได้มีความพร้อมมากนัก การลงทุนในลักษณะนี้จะก่อให้เกิดหนี้จำนวนมากตามมาให้รัฐบาลรับภาระ และหลังจากงานจบ บรรดาสนามแข่งก็จะถูกทิ้งร้าง เช่น เมื่อครั้งปี 2014 ที่บราซิลได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก หลังจากจบงานหนึ่งในสนามแข่งขันที่ลงทุนสร้างใหม่ ‘Mane Garrincha Stadium’ ในเมืองบราซิเลียถูกทิ้งร้างและใช้เป็นป้ายรอรถเมล์

ดังนั้น ‘ปารีส 2024’ ครั้งนี้จึงถูกสร้างและออกแบบภายใต้ความยั่งยืน ไม่ให้เกิดความสูญเปล่า

งานโอลิมปิกครั้งนี้ปารีสตั้งเป้าที่จะพยายามให้ไม่มีการก่อสร้างอะไรใหม่ แต่จะใช้การปรับปรุงแทน โดยมากกว่า 90% ของสถานที่สำหรับการจัดแข่งขันกีฬาครั้งนี้จะเป็นสถานที่เดิมที่มีอยู่แล้ว หรือเป็นสถานที่ที่ใช้ชั่วคราวในการแข่งขันครั้งนี้เท่านั้น

เพราะปัญหาสนามแข่ง ตึก และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ถูกทิ้งร้างหลังจากจบงาน กระทบต่อภาพลักษณ์ของโอลิมปิก ในระยะยาว เนื่องจากปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการยื่นเสนอราคาในการเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดงานครั้งต่อ ๆ ไป (บรรดาประเทศที่จะเสนอราคาจะต้องคิดอย่างหนัก และไม่เสนอราคาที่สูงเกินไปเพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน) คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) หวังว่าปารีส 2024 นี้จะเป็นดั่งพิมพ์เขียวให้บรรดาว่าที่ประเทศเจ้าภาพในอนาคตได้นำไปปรับใช้ และกระตุ้นให้เกิดการยื่นเสนอตัวการเป็นเจ้าภาพ

ซึ่งแนวคิดของความยั่งยืน-เน้นใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่จะถูกนำไปใช้ที่งานโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2026 ที่ ‘มิลาน’ และ โอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2028 ที่ ‘ลอสแองเจลิส’ ด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ถูกยืนยันโดย ‘มารี ซัลลัวส์’ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล

ซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อประมาณทศวรรษที่แล้ว เมือง ‘ลอนดอน’ ประเทศอังกฤษ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความยั่งยืนนี้ทำได้จริง

เมื่อครั้งปี 2012 ที่ลอนดอนได้เป็นเจ้าภาพงานโอลิมปิก ลอนดอนมีการยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การสร้างถนนไปสู่สนามการแข่งขัน การเพิ่มระบบขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงการสร้างสนามการแข่งขันและอาคารต่าง ๆ เพื่อใช้ในงาน และเมื่องานโอลิมปิกจบลง อาคารและสนามกีฬาถูกนำมาใช้ประโยชน์ไม่ให้สูญเปล่า เช่น หมู่บ้านนักกีฬาถูกนำมาปรับปรุงใหม่เป็นบ้านพักส่วนตัว สถานที่จัดงานถูกแทนที่ด้วยอาคารสำนักงาน สนามกีฬา และศูนย์กีฬาต่าง ๆ ถูกนำมาปรับปรุงและเปิดให้ประชาชนเข้าชม

หากมองอย่างผิวเผินอาจจะดูเป็นเรื่องง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นแบบนั้น ‘เดวิด สตับส์’ (David Stubbs) ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมที่เคยทำงานร่วมกับคณะกรรมการจัดงานที่ลอนดอนออกมาอธิบายในเรื่องนี้ว่า

“เราจะยั่งยืนกันนะ เราจะนำอาคารและสิ่งก่อสร้างกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งหลังงานจบ! ไม่ มันไม่ง่ายแบบนั้น ถ้าปราศจากการวางแผนเรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้น ตอนนั้นเราทำงานกันหนักมากเพื่อให้ได้มาซึ่งแผนการที่ดี เราร่วมมือและได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย หรือแม้แต่บรรดาสปอนเซอร์เองก็อยากเข้ามามีส่วนร่วมกับเราตรงนี้ด้วย”

ทว่าการก่อสร้างพลิกโฉมครั้งนั้นก็นำปัญหามาให้คนในพื้นที่บริเวณรอบ ๆ เช่นกัน มีผู้อยู่อาศัยหลายครัวเรือนและบรรดาร้านค้าหลายร้านในบริเวณนั้นต้องย้ายออกเพราะการก่อสร้าง ราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณนั้นก็สูงขึ้น หรือแม้แต่ปัญหาสนามถูกทิ้งร้าง ไม่ได้รับการดูแลก็ยังมีให้เห็นบ้าง อันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องเงินทุน

แต่ก็มีบางสนามกีฬาเช่นกันที่ถูกนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้ ได้แก่ London Stadium สนามเหย้าของสโมสร West Ham United ซึ่งนอกจากจะถูกใช้เป็นรังเหย้าของสโมสรขุนค้อนแล้ว ยังถูกนำมาใช้จัดการแข่งขันรักบี้ แข่งรถบิ๊กฟุต หรือแม้แต่จัดคอนเสิร์ต โดยรวมแล้วสนามแห่งนี้เป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญ ๆ ประมาณ 40 งานต่อปี

เมื่อมองย้อนกลับไปก็อาจจะเรียกได้ว่าลอนดอนประสบความสำเร็จเรื่องความยั่งยืนในเวลานั้น แต่ตอนนี้ปารีสกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่! เพราะปารีส 2024 นี้จะเป็นครั้งแรกที่นำแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ การนำสถานที่และสิ่งก่อสร้างที่ใช้ในงานโอลิมปิกกลับมาใช้ใหม่ จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับงานโอลิมปิก ให้กับเมืองอื่น ๆ และว่าที่เจ้าภาพประเทศอื่นในอนาคต

เรื่อง: กฤชพนธ์ ศรีอ่วม
ภาพ: USA TODAY
อ้างอิง: Before Paris, London Showed How the Olympics Could Be Sustainable, The New York Times