ประเทศไทยกำลังมี ‘รายได้ต่อหัวและอัตราการโตของเศรษฐกิจ’ ในพัฒนาการที่แย่ลง ใกล้เคียงกับประเทศอย่าง บราซิล แมกซิโก โคลัมเบีย และชิลี ทั้ง ๆ ที่จากเดิมไทยเคยเป็นประเทศที่มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก แต่ตอนนี้กลายเป็นโตต่ำกว่าโลก
ประเทศไทยกำลังมีรายได้ต่อหัวและอัตราการโตของเศรษฐกิจไทยที่มีพัฒนาการแย่ลง โดย position ของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ รอบโลก ประเทศไทยกำลังเข้าใกล้โซน ‘ประเทศที่รายได้ต่ำ และโตช้า’ อยู่ใกล้เคียงกับประเทศอย่าง บราซิล, แมกซิโก, โคลัมเบีย และชิลี
โดยกลุ่มประเทศในอาเซียนที่เป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจโดยตรงของไทยอย่าง ฟิลิปินส์, เวียดนาม และอินโดนีเซีย ถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งประเทศที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงกว่าประเทศไทย ถึงแม้ทั้ง 3 ประเทศจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่รายได้ต่ำเมื่อเทียบกับโลก ซึ่งนั่นอาจหมายความกลาย ๆ ว่าประเทศกลุ่มนี้คือกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ในขณะที่มาเลเซียถูกจัดให้เป็นประเทศที่รายได้สูงและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง
กลับมาที่ประเทศไทย ก่อนหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประเทศไทย ‘เคย’ โตใกล้เคียงกับโลก หรือแม้แต่เคยเติบโตสูงกว่าโลกเสียด้วยซ้ำ แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่บาดโควิด-19 ประเทศไทยเริ่มโตได้ต่ำกว่าโลก ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ในประเทศที่หดตัว-เปราะบาง การลงทุนภาครัฐ-เอกชน หดตัว และความสามารถทางการแข่งขันของไทยที่ลดลง
ไม่เพียงเท่านั้นการขาดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และ ‘งบประมาณเบิกจ่ายที่ล้าช้า’ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่เติบโตเท่าที่ควรจะเป็น
เช่นนั้นแล้วประเทศไทยจะต้องทำอย่างไรให้สามารถเป็นประเทศที่เติบโตใกล้เคียงไปกับโลกได้ (การจะเติบโตให้สูงกว่าต้องเริ่มจากก้าวแรกคือการตามโลกให้ทัน
ประการแรกเพิ่มประสิทธิภาพการส่งออกของประเทศ เนื่องจากปัจจุบันมูลค่าการส่งออกของประเทศไทยขยายตัว #ต่ำกว่าอุปสงค์รวมของโลก แทบทุกหมวดสินค้า ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลงในระดับประเทศ
ประการที่สองให้ความสำคัญกับ SME ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทั้งภาครัฐและภาคการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SME เนื่องจาก SME กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย โดยมีมูลค่าคิดเป็น 38.5% ของ GDP ไทย ในปี พ.ศ.256
ประการที่สาม แก้ปัญหารายได้เกษตรกรที่กำลังหดตัว เนื่องจากรายได้ของภาคเกษตรจะส่งผลต่อการบริโภคภาคเอกชน แรงงานราว ๆ 12 ล้านคนในไทย กำลังพึ่งพารายได้จากภาคเกษตรกร ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคในไทยที่เปราะบาง ถ้ารายได้ของกลุ่มเกษตรกรไม่เพิ่มขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคจะยังเปราะบางต่อไป
จากนี้ต้องติดตามกันว่านโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน, นโยบายระยะสั้น, นโยบายระยะกลาง ของรัฐบาลจะสามารถผลักดันประเทศไทยให้กลับไปเติบโตใกล้เคียงกับโลกได้หรือไม่ หรืออย่างน้อยอาจจะต้องไล่ตามประเทศเพื่อนบ้านไทยให้ทันเสียก่อน
ที่มา : SCB EIC