เมื่อไทยพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนมากไป ผลเสียระยะยาวต่อเศรษฐกิจไทย

หากช่วงนี้คุณผู้อ่านรู้สึกว่าชาวต่างชาติในประเทศไทยดูบางตาลง เห็นว่าถนนหรือย่านท่องเที่ยวที่เคยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวกลับเงียบเหงา เสียงสนทนาเป็นภาษาจีนที่เป็นเอกลักษณ์ด้านความดังดูเงียบหายสบายหู ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่ตามสถิติแล้ว ณ เวลานี้ นักท่องเที่ยวในไทยหายไปจริง ๆ เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของไทยเครื่องนี้กำลังเสี่ยงมอดดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า โดยอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 11 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมจำนวน 12,948,032 คน ลดลง 1.04% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้รวมจากการท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย แต่ยังสามารถขยายตัวได้อยู่ที่ 613,168 ล้านบาท

แต่การลดลงของนักท่องเที่ยวในไทยก็มีข้อสังเกตบางประการเช่นกัน นั่นคือ ในขณะที่นักท่องเที่ยวจีนในไทยลดลง นักท่องเที่ยวชาติอื่นที่เป็นกลุ่มตลาดระยะไกล (Long-Haul) กลับมีเพิ่มมากขึ้น จากรายงานของ ททท.

• มกราคม 2568 : นักท่องเที่ยวเยอรมัน, ฝรั่งเศษ, อิตาลี เพิ่มขึ้น 20% 17% และ 17% ตามลำดับ
• กุมภาพันธ์ 2568 : นักท่องเที่ยวเยอรมัน, ฝรั่งเศษ, อิตาลี เพิ่มขึ้น 20% 16% และ 17% ตามลำดับ
• มีนาคม 2568 : นักท่องเที่ยวอิสราเอล, ฝรั่งเศษ, อิตาลี เพิ่มขึ้น 39% 16% และ 18% ตามลำดับ

*เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

จริง ๆ แล้วนอกเหนือจากนักท่องเที่ยวเยอรมัน ฝรั่งเศษ อิตาลี และอิสราเอลที่เพิ่มขึ้น (ตามตัวเลขข้างต้น) นักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มตลาดระยะไกลจาก รัซเซีย อังกฤษ สหรัฐ สวีเดน และฮอนแลนด์ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน กล่าวได้ว่า ในภาพรวมที่จำนวนนักท่องเที่ยวในไทยหดตัวส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากที่นักท่องเที่ยวจีนหายไปอย่างมีนัยสำคัญ

ถามว่ามีนัยสำคัญแค่ไหน นักท่องเที่ยวจีนสำคัญขนาดไหน ? สำคัญขนาดที่

• ททท. จะต้องจ่ายงบไม่รู้เท่าไหร่ (ยังไม่ถูกเปิดเผย) เพื่อผลักดันโปรเจกต์ “สวัสดี หนีห่าว” นำคณะอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนกว่า 300 ชีวิต มาเที่ยวไทย เพื่อโปรโมทให้ชาวจีนบินกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้ง
• รมว.ท่องเที่ยว ‘สรวงศ์ เทียนทอง’ เปิดห้องรับรอง ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อต้อนรับอินฟลูชาวจีนที่ชื่อ ‘ไท่หยวน เหล่าเกอ’ ด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งอินฟลูฯ คนนี้มาไทยเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวไทย

ซึ่งถามว่าทำไมนักท่องเที่ยวจีนถึงเมินไทย บินไปญี่ปุ่น บินไปเกาหลีใต้แทน ? จากผลสำรวจของสถาบัน Dragon Trail ที่ประเทศจีนเมื่อเดือนเมษายนพบว่า ชาวจีนกว่า 51% มองว่าประเทศไทย “ไม่ปลอดภัย” พอคนจีนมีทัศนะแบบนี้ รัฐบาลไทยก็พยายามจะแก้ผ่านการจ้างอินฟลู-ผลักดันโปรเจกต์ที่จะพาอินฟลูจีนมาเที่ยวไทย

จะเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนถูกให้ความสำคัญจากรัฐบาลไทยมากจริง ๆ (ง้อเต็มที่) เรื่องนี้ตอกย้ำว่านักท่องเที่ยวจีนสำคัญ และมีนัยสำคัญขนาดนี้แหละ

โอกาสทีเสียไปจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวเพียงประเทศใดประเทศหนึ่ง

เป็นที่น่าเสียดายที่ประเทศไทยไม่อาจใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาดใหม่ ๆ เน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการดึงนักท่องเที่ยวจากยุโรป แทนที่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน เพราะคุณผู้อ่านคงรู้ดี รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นทั่วโลกก็คงรู้ดี ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะมีลักษณะนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์ ที่อาจจะไม่ใช่คุณลักษณะนิสัยที่คนส่วนใหญ่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะพูดจาเสียงดังในที่สาธารณะ รถไฟฟ้า พฤติกรรมการเข้าคิวต่อแถว พฤติกรรมการสูบบุหรี่ไม่เลือกสถานที่ และอื่น ๆ ที่ไม่น่าพิสมัย

บางทีการที่นักท่องเที่ยวชาติอื่นเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะการหายไปของนักท่องเที่ยวจีนก็เป็นไปได้

ซึ่งเรื่องนี้เองก็ถูกเน้นย้ำโดย KKP Research เช่นกันว่าการพึ่งพานักท่องเที่ยวจากประเทศใดประเทศหนึ่งถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก นำมาสู่การพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนของประเทศที่ส่งผลกระทบต่อภาคบริการ เกิดเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันไทยก็กำลังเป็นเช่นนั้น

สุดท้ายนี้มีการคาดการณ์จากศูนย์วิจัยกสิกรไทยว่าตลอดทั้งปี 2568 นักท่องเที่ยวในไทยอาจหดตัวถึง 2.8% จะมีรายได้ที่ไหลเข้าประเทศจากภาคการท่องเที่ยวหายไปถึง 1.62 ล้านล้านบาท ทว่า ณ ตอนนี้รัฐบาลเองก็เริ่มมีการขยับและลงมือทำอะไรบ่างอย่างที่อาจพลิกสถานการณ์ได้ นั่นคือ การเลื่อนการแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 3 อย่างไม่มีกำหนด

เพื่อเอาวงเงินราว ๆ 157,000 ล้านบาท มาส่งเสริมหลายภาคส่วนในไทย ซึ่งรวมไปถึงส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวด้วย จากนี้คงต้องมาดูกันว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรกับภาคการท่องเที่ยว จะออกกลยุทธ์ หรือออกมาตรการอะไรมาแก้สถานการณ์เที่ยวไทยซบเซา และถ้าดูจากประวัติที่รัฐบาลเคยทำ คงไม่พ้นแบ่งงบประมาณส่วนหนึ่งมาจ้างอินฟลูจีน มารีวิวและท่องเที่ยวในไทยเป็นแน่…..

.

อ้างอิง

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย : ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยเผชิญหลายปัจจัยลบ คาดทั้งปี 2568 หดตัว 2.8% ครั้งแรกในรอบ 3 ปี หรือมีจำนวน 34.5 ล้านคน
• KKP Research (2568) ทำอย่ำงไรเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย (ตอนที่ 1) – ทำไมเศรษฐกิจไทยกำลงจะโตต่ำลงเรื่อย ๆ ?
• TAT.or
• TAT.or (2)
• การเงินธนาคาร